หลังจากถูกทางการแคนาดาจับกุมตัวเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ในที่สุดนางเมิ่ง หวันโจว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีโทรคมนาคมของจีน ก็ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวด้วยวงเงินประกัน 10 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือประมาณ 7.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราวๆ 247.5 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม คาดว่าแคนาดาจะส่งตัวผู้ต้องหามอบให้กับทางการสหรัฐฯตามคำขอ เพื่อนำผู้บริหารรายนี้เข้าสู่การพิจารณาคดีกรณีให้ข้อมูลเท็จแก่สถาบันการเงินและปกปิดธุรกรรมการซื้อขายสินค้าเทคโนโลยีให้กับอิหร่านซึ่งขัดต่อมติคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐฯ
หลังได้รับการประกันตัว นางเมิ่งจะถูกยึดหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)ทั้งหมด และต้องสวมใส่อุปกรณ์ติดตามตัวด้วยสัญญาณจีพีเอส และทุกครั้งที่ออกจากที่พักจะต้องมีการรายงานโดยละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าเธอจะไม่หนีคดี ท่าทีของแคนาดาในครั้งนี้ ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของสถานการณ์การเผชิญหน้าทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน และทำให้ตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลกคลายความวิตกกังวลลง
การตัดสินของผู้พิพากษาศาลเมืองแวนคูเวอร์ให้นางเมิ่งสามารถประกันตัวมีขึ้น แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางการสหรัฐฯจะยื่นขอให้ศาลปฏิเสธการประกันตัวเพราะเกรงว่าด้วยอำนาจเงินของครอบครัว ผู้ต้องหารายนี้อาจหนีคดี อย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดหมายว่า แคนาดาจะส่งมอบตัวเธอให้กับทางการสหรัฐฯตามที่ขอมา
“หัวเว่ยเองยืนยันว่ากระทำการทุกอย่างตามตัวบทกฎหมายของทุกประเทศและทุกภูมิภาคที่บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจ”
กระบวนการต่อจากนี้จะเป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิด รายงานข่าวระบุว่า ในวงเงินประกัน 10 ล้านดอลลาร์แคนาดานั้น จะเป็นเงินสด 7 ล้านดอลลาร์แคนาดา ที่เหลือ 3 ล้านดอลลาร์ จะมาจากผู้ค้ำประกันที่คาดว่าอาจจะมี 5 คนหรือมากกว่านั้น เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ต้องหาจะไม่หลบหนีออกนอกประเทศแคนาดา ด้านโฆษกบริษัท หัวเว่ย ได้ออกแถลงการณ์หลังรับทราบคำตัดสินของศาลแวนคูเวอร์ให้สามารถประกันตัวนางเมิ่งว่า บริษัทมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าระบบกฎหมายของแคนาดาและสหรัฐอเมริกา จะให้ความเป็นธรรมต่อกระบวนการนับจากนี้ และหัวเว่ยเองก็ขอยืนยันว่ากระทำการทุกอย่างตามตัวบทกฎหมายของทุกประเทศและทุกภูมิภาคที่บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจ รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการส่งออกและกฎหมายการคว่ำบาตรทั้งของสหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป
สำหรับข้อกล่าวหาของสหรัฐฯในการขอความร่วมมือแคนาดา จับกุมตัวนางเมิ่ง หวันโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัท หัวเว่ยฯ ในครั้งนี้ สหรัฐฯระบุว่า หัวเว่ยฯ ได้กระทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าเทคโนโลยีกับประเทศอิหร่านที่ถูกสหรัฐฯคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการเงิน ผ่านทางบริษัท สกายคอม ในฮ่องกง โดยสกายคอม เป็นบริษัทที่มีความเชื่อมโยงใกล้ชิดกับหัวเว่ยและมีสำนักงานสาขาในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน
จะปล่อยหรือไม่ปล่อย!
นักวิเคราะห์เชื่อว่าการเปิดช่องให้นางเมิ่ง มีโอกาสได้ประกันตัว เป็นการตัดสินใจของแคนาดาที่หวังลดความขุ่นข้องใจของฝ่ายจีน และไม่ต้องการมีเรื่องบาดหมางกับรัฐบาลจีนที่มองว่าแคนาดาเดินตามเกมของสหรัฐฯ แต่อีกส่วนหนึ่งก็มองว่า แคนาดาถูกกดดันโดยตรงจากรัฐบาลปักกิ่งที่ส่งสัญญาณชัดว่า พร้อมเล่นงานแคนาดาเต็มสูบหากไม่ยอมปล่อยตัวผู้บริหารหัวเว่ย เพราะเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทางการจีนได้ควบคุมตัวนายไมเคิล โคฟริก อดีตเจ้าหน้าที่การทูตแคนาดาที่เคยประจำการอยู่ในประเทศจีน ไปดำเนินคดีซึ่งยังไม่มีรายละเอียดเปิดเผยออกมามากนักว่า เขาถูกทางการจีนจับกุมตัวด้วยข้อหาอะไร แต่สื่อแคนาดายืนยันว่าข่าวนี้เป็นเรื่องจริง แม้แต่นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของแคนาดา ยังออกมายอมรับว่า รัฐบาลกำลังเจรจากับฝ่ายจีนเพื่อประสานการให้ความช่วยเหลือนายโคฟริกที่ถูกควบคุมตัว ปัจจุบัน นายโคฟริกทำงานให้กับองค์กร อินเตอร์เนชั่นแนล ไครซิส กรุ๊ป และโกลบอล แอฟแฟร์ แคนาดา ซึ่งเป็นองค์กรด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของแคนาดา
การตอกกลับแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ระหว่างจีน-สหรัฐฯและแคนาดา ได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่นั่นก็อาจนำไปสู่การคลี่คลายปัญหาด้วยการ “ยื่นหมูยื่นแมว” ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อ (11 ธ.ค.) ว่า ถ้าจำเป็นก็พร้อมยื่นมือเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้ โดยจะคุยกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ หากจะช่วยให้สหรัฐฯสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับจีนได้ หรือเพื่อช่วยปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ เอง
ขอดูจีนหงายไพ่ก่อน
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯเคยผ่อนปรนบทลงโทษให้กับบริษัท แซดทีอี ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอีกรายหนึ่งของจีนมาแล้ว โดยแซดทีอีเคยถูกสหรัฐฯคว่ำบาตรด้วยข้อกล่าวหาส่งออกสินค้าเทคโนโลยีให้กับอิหร่านและเกาหลีเหนือ ซ้ำยังให้ข้อมูลเท็จกับทางการสหรัฐฯหลายครั้งหลายคราด้วยกัน มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯทำให้ธุรกิจของแซดทีอีซวนเซหนักถึงขั้นต้องปิดสายการผลิต แต่สุดท้ายสหรัฐฯให้เหตุผลว่า แซดทีอีเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ของบริษัทสหรัฐฯที่เป็นซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนประกอบสำคัญที่แซดทีอีต้องใช้ในการผลิต อีกทั้งแซดทีอียอมจ่ายค่าปรับก้อนใหญ่ สหรัฐฯจึงยอมยกเลิกคำสั่งคว่ำบาตรให้แซดทีอี
“ผมอยากเห็นก่อนว่าฝ่ายจีนเรียกร้องอะไรบ้าง”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่นางเมิ่งจะถูกปล่อยตัว ผู้นำสหรัฐฯเปิดช่องว่า อะไรๆก็เป็นไปได้ และเป็นไปได้ที่เรื่องนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจา(ระหว่างจีนและสหรัฐฯ) ประธานาธิบดีทรัมป์ยังบอกด้วยว่า จะต้องคุยกับกระทรวงยุติธรรมก่อน ส่วนคำถามที่ว่าอยากเห็นแคนาดาส่งตัวผู้ต้องหามายังสหรัฐฯหรือไม่ คำตอบของผู้นำสหรัฐฯแสดงชัดว่า ทุกอย่างเป็นเรื่องของการต่อรอง “ผมอยากเห็นก่อนว่าทางฝ่ายจีนเรียกร้องอะไรบ้าง”
คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิด:
มุมมองหรือความคิดเห็นที่แสดงในบทความข้างต้นแสดงถึงมุมมองส่วนบุคคลหรือความคิดเห็นของผู้เขียนซึ่งไม่ได้เป็นตัวแทนของ Infinox Capital (“Infinox”) Infinox ไม่มีข้อผูกมัดหรือภาระผูกพันในการตรวจสอบหรือยืนยันความถูกต้องของผู้เขียนบทความและข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความ Infinox จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ อันเกิดจากบทความดังกล่าว
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เป็น (และไม่ควรพิจารณาเป็น) คำแนะนำด้านการเงินการลงทุนหรือคำแนะนำอื่นใด Infinox ไม่ได้รับอนุญาตให้คำแนะนำการลงทุน ไม่มีความคิดเห็นใดในเนื้อหาที่ถือเป็นการแนะนำโดย Infinox หรือผู้เขียน ทั้งในเรื่องการลงทุน ความปลอดภัย การซื้อขายรวมถึงกลยุทธ์ใด ๆ สำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
CFDs เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจจึงมีความเสี่ยงสูงต่อการสูญเสียเงินทุนอย่างรวดเร็ว 83.5% ของบัญชีนักลงทุนรายย่อยสูญเสียเงินทุนเมื่อซื้อขายผลิตภัณฑ์ CFDs กับ INFINOX โปรดแน่ใจว่าคุณมีความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ CFDs และสามารถรองรับความเสี่ยงต่อการสูญเสียเงินทุนได้

เปิดพอร์ต Forex, ทองคำ, ดัชนีหุ้น,
ลงทุนสินทรัพย์ทั่วโลก ไม่มีขีดจำกัด
เปิดบัญชี STP/ECN
เปิดบัญชี Demo
การซื้อขาย FOREX และ CFD มีความเสี่ยงที่สามารถทำให้สูญเสียเงินท
ฝากและถอน
หลากหลายช่องทาง